เบอร์ 10 ในตำนาน
เบอร์ 10 ในตำนาน วงการลูกหนัง หรือ ตำนานลูกหนัง ต้องยอมรับว่า เบอร์ 10 เป็นหมายเลขที่หลายคนปรารถนาที่จะได้สวมใส่ เพราะเป็นเบอร์เสื้อของนักเตะในตำนานหลายคน จนเหมือนกับว่า คนที่ใส่เสื้อ เบอร์10 จะเป็นที่น่าจับตามองของทุกทีม
เบอร์ 10 ในตำนานาที่โลกจดจำ
1. เปเล่
เปเล่ คือ เบอร์10 ในตำนาน หมายเลขหนึ่ง เพราะเขาเป็นต้นฉบับ และเป็นที่ทำให้หมายเลข10 ขลังและใครๆก็อยากใส่ “เอ ดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู” ทำได้เกินกว่า 1,000 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง ทำแฮตทริคได้มากที่สุด 92 ครั้ง รวมกับแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 สมัย ถือเป็นสถิติที่มหัศจรรย์ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม แม้ทัศนะด้านฟุตบอล ของเขาจะเป็นที่น่ากังขา เมื่อออกมาฟันธงเมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น แต่ถ้าพูดถึงผลงานในสนาม เขาคือตำนาน เป็นคิงออฟฟุตบอล ที่ไม่มีทางเสื่อมคลายไปตามกาลเวลาและเป็น ตำนานลูกหนัง ที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้

2. ดิเอโก้ มาราโดนา
สำหรับดิเอโก้ มาราโดนา ก็เป็นอีกคนหนึ่ง เป็นทั้งพระเจ้าของอาร์เจนตินาและสโมสรนาโปลี จากการผลักดันให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยฝีเท้าระดับเทพของเขา ความคลาสสิคของมาราโดนาคือการเป็นทั้ง “พระเจ้า” และ “ซาตาน” ในคนเดียวกัน
เมื่อมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม หากไม่นับรวมเรื่องยาเสพติดที่ทำให้ชีวิตค้าแข้งมีรอยด่างพร้อย ตัวอย่างแบบง่ายๆ ก็คือเกมพบอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ที่มาราโดนาทำ “หัตถ์พระเจ้า” ตบบอลเข้าประตู ก่อนจะลากเลื้อยผ่านกองหลัง 5 คน และเป็นประตูที่สวยงามที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ความ “เทพ” และ “มาร” ที่ห่างกันเพียงไม่กี่นาทีเช่นนี้ มีเพียงมาราโดนาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครเสมอเหมือน

3. มิเชล พลาตินี
“นโปเลียนลูกหนัง” มิเชล พลาตินี คือตำนานหมายเลข 10 ผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศส ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ทำให้หมายเลขนี้คงความขลัง ในดินแดนตราไก่ รวมถึงกับสโมสรยูเวนตุสที่เขาเป็นเจ้าของหมายเลขศักดิ์สิทธิอยู่นานถึง 6 ปี ใน ระดับชาติ เขาอาจไม่เคยพาทีมฝรั่งเศสไปถึงฟุตบอลโลกเหมือนซีเนดีน ซีดาน รุ่นน้องในทีมชาติ แต่ก็เป็นหัวใจสำคัญที่พาพลพรรคตราไก่ไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปในปี 1984 นอกจากจะมีลูกจ่ายที่เฉียบคม เทคนิคดี และมีทัศนะกว้างไกลเหมือนผู้เล่นหมายเลข 10 คนอื่นๆ พลาตินียังถือเป็นจอมปั่นฟรีคิกและตัวทำประตูชั้นเยี่ยม ผลงาน 41 ประตูในนามทีมชาติ เป็นอันดับสองตลอดกาลของฝรั่งเศส ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก คือ สิ่งยืนยันถึงความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ของเขาได้เป็นอย่างดี

4. โรแบร์โต บาจโจ้
โรแบร์โต บาจโจ้ “เทพบุตรเปียทองคำ” น่าจะถือได้ว่าเป็นต้นฉบับ Trequartista – กลางรุกหรือหน้าต่ำ จากทีมชาติอิตาลี และน่าจะถือเป็นหมายเลข 10 ที่คลาสสิคที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังมักกะโรนี บาจโจ้ อาจอาภัพในทีมชาติ เมื่อเขาเป็นคนยิงจุดโทษข้ามคานในฟุตบอลโลก 1994 และถือเป็นช็อตคลาสสิคอีกหนึ่งฉากในโลกลูกหนัง แต่เขาก็เป็นคนพาทีมชาติอิตาลีในยุคนั้นเข้าไปถึงรอบชิง เมื่อเป็นคนเล่นลูกตัดสินเกมลูกแล้วลูกเล่าในรอบน็อคเอาท์ ขณะเดียวกันประตูในฟุตบอลโลก 1990 ที่เขาโซโลเดี่ยวเข้าไปยิง เช็คโกสโลวาเกีย ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่มากมาย ส่วนในระดับสโมสร เขาประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งกับฟิออเรนตินา, ยูเวนตุส และเอซี มิลาน นอกจากนี้เขายังเคยคว้าบัลลงดอร์มาครองได้อีก 1 สมัย แม้ต็อตติและเดล ปิเอโร จะถือเป็นอีกสองเบอร์ 10 ที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับบาจโจ้แล้ว อาจจำเป็นต้องใช้คำว่า “คนละคลาส” มาอธิบาย

5. ซีเนดีน ซีดาน
ซีเนดีน ซีดาน เคยได้รับการยกย่องว่าเป็น “นิว พลาตินี”แต่เขาได้พิสูจน์ตัวเอง ให้เห็นแล้วว่า สามารถไปได้ไกลกว่านั้น เมื่อคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่พลาตินีไม่เคยได้สัมผัสมาครองในปี 1998 ส่วนในฟุตบอลยุโรป ซีดานก็เคยได้ชูถ้วยยูโร 2000 เช่นกัน ซีดาน ถือเป็นกำลังสำคัญของทีม ทั้งในระดับชาติและสโมสร ด้วยทักษะครองบอลที่เหนือชั้น การเล่นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และอาศัยความสามารถเฉพาะตัวขับเคลื่อนเกมที่เขารับหน้าที่บัญชาได้อย่างไหล ลื่นไร้ที่ติ ความล้มเหลวของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2002 และยูโร 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ซีดานไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์ และการกลับมาเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ซีดานสำคัญแค่ไหนในยุครุ่งเรืองของเขาน่า เสียดายที่ฉากจบที่ไม่ค่อยสวยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และการไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ประจำในระดับสโมสรเพราะติดเจ้าของสัมปทานเก่า ทำให้เขาไม่ได้เป็นหมายเลข 10 ที่อยู่ในอันดับสูงกว่านี้ แม้เรื่องฝีเท้าจะไม่เป็นรองใครก็ตาม

6. จอร์จี้ ฮาจี้
จอร์จี้ ฮาจี้ “มาราโดนาแห่งเทือกเขาคาพาเธียน” คือชื่อที่โลกมอบให้กับอัจฉริยะ ตำนานลูกหนัง แห่งยุโรปตะวันออก หรือคนไทยอาจคุ้นเคยกับคำว่า “มาราโดนาแห่งคาบสมุทรบอลข่าน” มากกว่า แต่ทั้งสองชื่อ ยืนยันถึงความเป็นเลิศทางด้านฟุตบอลของ จอร์จี้ ฮาจี้ ได้เป็นอย่างดี ฮาจี้เป็นมิดฟิลด์หมายเลข 10 ที่ครบเครื่อง มีทั้งลูกจ่าย การเลี้ยงบอล และลูกยิงไกลเป็นเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะลูกใบไม้ร่วงรวมถึงลูกยิงตั้งแต่เกือบกลางสนาม ที่เขาทำประตูได้สวยๆ หลายครั้ง นอกจากเป็นตำนานที่มีชีวิตของทีม ชาติโรมาเนีย เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของทีมผีดิบแล้ว จอร์จี้ ฮาจี้ ยังเคยค้าแข้งกับสโมสรดังอย่างบาร์เซโลนา รวมถึงพากาลาตาซารายไปถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 1999-00 อีกด้วย

7. ซิโก้
ซิโก้ หรือ”เปเล่ขาว”อาจจะเป็นอัจฉริยะ ที่อาภัพที่สุดคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นจอมทัพของทีมชาติบราซิล ชุดที่ดีที่สุดที่แต่ไม่ได้แชมป์โลก และต้องชอกช้ำในทัวร์นาเมนต์สำคัญทั้งหลายเรื่อยมา เกมรอบแปดทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1986 ที่บราซิลพบฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โลกยอมรับว่าคลาสสิคที่สุดตลอดกาล เมื่อซิโก้ต้องเปิดฉากดวลกับอีกหนึ่งสุดยอดหมายเลข 10 ของโลก อย่างมิเชล พลาตินี และกลับกลายเป็นว่าซิโก้ต้องชอกช้ำจากการดวลจุดโทษตัดสินในท้ายที่สุด แม้ จะครองความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินอเมริกาใต้กับฟลาเมงโกมาอย่างยาวนาน แต่ซิโก้กลับได้ค้าแข้งในยุโรปกับอูดิเนเซเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่บั้นปลายชีวิตเขาจะไปเล่นในญี่ปุ่นและกลายเป็นขวัญใจของแดนปลาดิบ รวมถึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เจลีกบูมในยุคเริ่มต้น และนั่นคือบทพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี

8. โลธาร์ มัทเธอุส
โลธาร์ มัทเธอุส “ซูเปอร์แมน” โลธาร์ มัทเธอุส อาจเป็น ตำนานลูกหนัง หมายเลข 10 ที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้มีลีลาสวยงามมากมายนัก แต่ถ้าพูดถึงความทรงพลังและประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าคุณสมบัติในฐานะนักฟุตบอลของเขามีไม่แพ้ใคร เขาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 เมื่อในนัดชิงชนะเลิศ เป็นคนรับหน้าที่ตามประกบดิเอโก้ มาราโดนา แบบถึงพริกถึงขิงไม่ยอมปล่อยให้หายใจง่ายๆ มัทเธอุสคือตัวแบบของนัก เตะในสไตล์เยอรมันขนานแท้ ที่อาจไม่ได้มีจินตนาการสร้างสรรค์ล้นเหลือ แต่มีความฟิต แข็งแกร่ง และรวดเร็ว จนอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นกองกลางประเภท “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง ส่วนในระดับสโมสร เขายังเป็นหัวใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะขยับลงมาเล่นเป็นตัวลิเบอโรในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง นอกจากนี้ มัทเธอุสยังครองสถิติเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 นัด มากกว่านักฟุตบอลคนใดที่เคยค้าแข้งมา คำนิยามของมาราโดนาที่บอกว่า มัทเธอุสเป็น “คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมี” น่าจะนิยามความยอดเยี่ยมของขุนพลอินทรีเหล็กหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี

9. รุย คอสต้า
รุย คอสต้า ตำนานลูกหนัง จอมทัพโปรตุเกส เป็นนักเตะที่โดดเด่นในการจ่ายบอลทะลุช่อง ได้อย่างเฉียบคม ฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามเป็นชิ้นๆ ซึ่งน่าจะถือเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของนักเตะหมายเลข 10 ทุกคน เขา สร้างชื่อให้ยุโรปรู้จักด้วยการจับคู่กับกาเบรียล บาติสตูต้า ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในทีมฟิออเรนตินา ก่อนจะออกมาค้าแข้งกับเอซี มิลาน และกลับไปปิดฉากชีวิตค้าแข้งที่เบนฟิก้า สโมสรที่เขาเคยเล่นตั้งแต่สมัยเยาวชนส่วนในทีมชาติ นี่คือจอมทัพของทีมชาติโปรตุเกสยุคทองที่เคยคว้าเยาวชนโลกเมื่อปี 1991 รวมถึงเกือบคว้าแชมป์ยูโรในปี 2004 แม้จะไม่มีรางวัลในระดับชาติมาครอบครอง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมแดนฝอยทองในยุคของเขา คือทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด นับตั้งแต่หลังยูเซบิโอเป็นต้นมา

10. ซโวนิเมียร์ โบบัน
ซโวนิเมียร์ โบบัน จอมทัพของปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ที่เคยค้าแข้งในซานซิโรตั้งแต่ปี 1992-2001 คือขุนพลยุคทองของทีมชาติโครเอเชีย ที่เกือบจะได้ไปถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998 โดยออกนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่จะถูกทีเด็ดของลิลิยง ตูราม ทำคนเดียวสองประตูพลิกแซงไปได้ จนพลาดโอกาสเข้าชิงไปอย่างน่าเสียดาย เขาคือนักเตะหมายเลข 10 ของทีมตราหมากรุกในยุคนั้น ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าฝีเท้ายอมเยี่ยมแค่ไหน โดยเฉพาะลูกจ่ายอันเฉียบคมและเหนือชั้นที่พลิกเกมมาแล้วนักต่อนัก ท้าย ที่สุด โครเอเชียคว้าอันดับสามไปครอง ส่วนฝรั่งเศสก้าวขึ้นไปเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกด้วยการปราบบราซิลหมดท่า 3-1 แต่โลกไม่เคยลืมผลงานของอันดับสามในคราวนั้นเลย เมื่อพวกเขาสร้างความลำบากให้ฝรั่งเศสได้มากกว่ารองแชมป์อย่างบราซิลเสียอีก
