โซลชาร์ ตำนานเพชฌฆาตหน้าเด็ก
โซลชาร์ ตำนานเพชฌฆาตหน้าเด็ก นักเตะในตำนาน เบอร์ 20 ของ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อพูดถึงแมนยู เขาเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับแมนยูตั้งแต่เด้ก และเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับการเป็นนักเตะแมนยูเป็นอย่างมาก
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เกิดเมื่อวันที่ : 26 ก.พ. 1973 ที่เมือง : คริสเตียนซุนด์ ประเทศ : นอร์เวย์
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร ตำแหน่ง : กองหน้า
โซลชาร์เริ่มเล่นให้กับสโมสร เคลาเซเนนเก้น ทีมดิวิชั่น 3 ของ นอร์เวย์ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นใน สโมสร โมลด์ ทีมในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ในปี 1995 และลงเล่นให้กับ โมลด์ เป็นเวลา 2 ปี ลงเล่น 42 นัด ยิงได้ 31 ประตู จนได้รับฉายาว่า “อลัน เชียร์เรอร์ แห่งนอร์เวย์” และก็ติดทีมชาตินอร์เวย์ ชุดใหญ่ในปีเดียวกัน ปี 1996 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ควักเงินมูลค่ากว่า 1.5 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทัพปีศาจแดงทันที
หลังจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ย้ายเข้ามาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในตำแหน่ง กองหน้า ของทีมแมนยู เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ในปีแรก ลงสนามไปทั้งหมด 49 นัด ทำประตูได้ไปถึง 19 ประตู และได้รับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทีม และได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 1996-97 มาครองได้สำเร็จ โซลขาร์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ปีแรก ในการเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของปีศาจแดง ทำให้บรรดาแฟนบอลต้องชื่นชอบเป็นอย่างมาก และด้วยความที่เขาหน้าตาเหมือนเด็ก เขาก็ได้ฉายา “เพชฌฆาตหน้าเด็ก” หรือ เพชฌฆาตหน้าทารก
เหตุการณ์ที่น่าจดจำไม่มีวันลืม ของแฟนบอลแมนยู
เหตุการณ์ที่น่าจดจำไม่มีวันลืม ของแฟนบอลแมนยู คือวันที่ทัพแมนยูมีคิวลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1998-1999 นัดชิงชนะเลิศกับ บาเยิร์น มิวนิค ในขณะนั้น ทั้งคู่คือยอดทีมแห่งยุค เพราะทั้ง แมนยูและบาเยิร์น ต่างมีลุ้น ทริปเปิ้ลแชมป์ ด้วยกันทั้งคู่ พอเพียงชูถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใบนี้ได้ ก็จำประกาศศักดาความยิ่งใหญ่บนทวีปยุโรปได้สำเร็จ เมื่อเกมเริ่มขึ้นกลับเป็นทางฝั่ง บาร์เยิร์น มิวนิค เป็นฝ่ายกดดันแมนยูได้มากกว่า จนออกนำไปก่อนในนาทีที่ 6 จาก มาริโอ บาสเลอร์ และเรียกได้ว่าทางฝั่งเสือใต้เป็นฝ่ายกดดันอยู่ฝั่งเดียว ก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะแก้ด้วยการส่ง เท็ดดี้ เชอริงแฮม ลงมาแทน เจสเปอร์ บลอมควิสต์ นาทีที่ 67 แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น จนสุดท้ายเขาตัดสินใจส่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงมาในนาทีที่ 81 และนั่นทำให้พวกเขาสามารถกดดัน บาร์เยิร์น มิวนิค อย่างต่อเนื่อง และนาทีที่ 91 ก็เป็นหนึ่งในตัวสำรองที่ถูกส่งมาอย่าง เชอริงแฮม ยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่จะเข้าสู่นาทีสุดท้ายของการทดเวลา ก็เป็น โอเล่ กุนนาร์โซลชาร์ ที่ซัดประตูชัยเหนือยอดทีมจากเยอรมันไป 2-1 คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ
การกลับมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง ในฐานะตำแหน่งกุนซือของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับภารกิจในการคืนชีพผีแดงให้กลับมาผงาดอีกครั้งบนยุโรป เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนสิ้นสุดฤดูกาล 2018-2019 หลัง โชเซ่ มูรินโญ่ ฝากผลงานไว้อย่างย่ำแย่ ซึ่งนัดสุดท้ายของ มูรินโญ่ คือการพาทีมไปแพ้คู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล แบบหมดหนทางสู้ 1-3 การกลับมาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เขาให้คำสัญญาว่าจะให้ ปอล ปอกบา เป็นศูนย์กลางการทำเกมภายใต้แผนการคุมทีมของเขา และนั่นก็คือส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ ปอล ปอกบา คืนฟอร์มการเล่นที่สุดยอดออกมาได้ พร้อมทั้งกดไปแล้ว 5 ประตู จ่ายอีก 4 ลูก ซึ่งแตกต่างจากสมัย มูรินโญ่ แบบสุดๆ