กำแพงเบอร์ลิน ‘ฟาบิโอ คันนาวาโร่’
เปิดประวัติตำนานกองหลังแห่งอิตาลี ฟาบิโอ คันนาวาโร่
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ชื่อนี้ไม่มีใครในโลกลูกหนังที่ไม่รู้จักเพราะเขาคนนี้คือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างไร้ข้อกังขา แข้งอิตาเลียนค้าแข้งกับยอดทีมในยุโรปไม่ว่าจะเป้นนาโปลี, ยูเวนตุส หรือแม้แต่เรอัล มาดริด และคว้าแชมป์มาครองมากมาย กัปตันทีมชาติอิตาลี
เจ้าของฉายา ‘มุโร ดิ แบร์ลิโน(กำแพงเบอร์ลิน)’ ที่ตั้งให้โดยแฟนบอลชาวอิตาเลียน เพราะเขาติดทีมชาติครั้งแรกในปี 1997 ในเกมอุ่นเครื่องกับไอร์แลนด์เหนือ ในปีต่อมา เจ้าหนุ่มฟาบิโอได้รับโอกาสให้ไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกในชีวิต เคียงข้างยอดแข้งอัซซูรีอย่างจูเซ็ปเป้ แบร์โกมี, อเลสซานโดร คอสตาคูร์ต้า และเปาโล มัลดินี

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ | : | ฟาบิโอ คันนาวาโร่ |
วันเกิด | : | 13 กันยายน 1973 |
สถานที่เกิด | : | เนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี |
สัญชาติ | : | อิตาลี |
ส่วนสูง | : | 176 เซนติเมตร |
ตำแหน่ง | กองหลัง | |
ฉายา | : | Il muro di Berlino ‘มุโร ดิ แบร์ลิโน'(กำแพงเบอร์ลิน) |
คันนาวาโร่ เป็นหนึ่งในสุดยอดกองหลังของโลกมาช้านาน และได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะกองหลังสุดแกร่งที่มีพร้อมสรรพทั้งการอ่านเกม แรงปะทะ และหัวจิตหัวใจที่ไม่ค่อยท้อถอย แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้สูงใหญ่อะไรเลยเพราะมีส่วนสูงแค่ 1.76 ซ.ม.เท่านั้นเอง
คันนาวาโร เกิดที่ เนเปิลส์ โดยเป็นลูกชายของ เกลโซมินา คอสตานโซ กับ ปาสเกเล คันนาวาโร ซึ่งแม่ของเขา ทำงานเป็นแม่บ้าน ขณะที่ พ่อของเขา ทำงานเป็นเสมียนธนาคาร นอกจากนี้ พ่อของเขายังเล่นฟุตบอลให้ระดับจังหวัดอีกด้วย
เขามีพี่สาว ชื่อว่า เรนาตา ซึ่งแต่งงานเมื่ออายุเพียง 15 ปี และยังมีน้องชายคนเล็กชื่อว่า เปาโล คันนาวาโร ซึ่งเล่นฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกัน โดย ฟาบิโอ เริ่มเล่นให้กับทีม บากโนลี ก่อนที่จะมีแมวมองคว้าตัวไปเล่นให้กับนาโปลี ซึ่งเริ่มแรกเขาทำหน้าที่บอลบอล และได้ดูไอดอลของตัวเอง อย่างดีเอโก มาราโดนา และ ชิโร แฟร์ไรรา เล่นในสนามอยู่บ่อย
รางวัลบัลลงดอล์
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กองหลังชาวอิตาลีดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2006 ของสโมสร รีล มาดริด ยอดทีมจาก ลา ลีกา สเปน คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ส่วนอันดับ 2 เป็น ซีเนดีน ซีดาน อดีตมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสและเจ้าของรางวัลนี้ 3 สมัย (ปี 1998, 2000 และ 2003) และอันดับ 3 โรนัลดินโญ่ กองกลางชาวบราซิลและสโมสรบาร์เซโลน่า จากการประกาศของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ส่งผลให้ คันนาวาโร่ จบผลงานส่งท้ายปี 2006 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการกวาดรางวัลมา 3 สถาบันอันได้แก่ รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของยุโรปหรือบัลลงดอร์ และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของนิตยสาร เวิลด์ ซอคเกอร์ และ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า
โดยปราการหลังวัย 33 ปีซึ่งกลายเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังคนแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้ในปี 1991 ได้กล่าวความรู้สึกต่อรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อหน้าแขกกิตติมศักดิ์ในงานว่า “มันเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ยอดเยี่ยมและไม่น่าเชื่อ ปี 2006 เป็นปีทองสำหรับผมจริงๆ การแข่งขันเป็นเรื่องที่น่ากลัวและแข็งแกร่งมาก หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป ผมไม่อยากได้รับรางวัลอื่นใดอีกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับผู้เล่นกองหลังอย่างผมที่จะนั่งเคียงข้าง โรนัลดินโญ่ และ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งทั้งสองคนได้สร้างผลงานอันน่าทึ่งตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้น การได้มายืนที่นี่ ถือเป็นชัยชนะสำหรับผมแล้ว”
นอกจากนี้ คันนา ยังได้กล่าวเชิดชู ซีดาน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าของเสื้อหมายเลข 5 ของรีล มาดริด คือนักเตะที่ยอดเยี่ยมและเป็นเกียรติที่ได้สวมเสื้อเบอร์เดียวกัน “เมื่อผมเข้ามาสโมสร รีล มาดริด ครั้งแรก ทุกคนต่างถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้สวมเสื้อเบอร์ 5 ของซีดาน ผมตอบไปว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สวมเสื้อเบอร์เดียวกับนักเตะผู้ยิ่งใหญ่”

ประวัติการเล่นทั้งสโมสรและทีมชาติ
ระดับเยาวชน
1988-1998 นาโปลี
ระดับอาชีพ
2010-2011 อัล อาห์ลี
2009-2010 ยูเวนตุส
2006-2009 เรอัล มาดริด
2004-2006 ยูเวนตุส
2002-2004 อินเตอร์ มิลาน
1995-2002 ปาร์มา
1992-1995 นาโปลี
ระดับทีมชาติ
1993-1996 อิตาลี ยู-21
1997-2010 อิตาลี ชุดใหญ่

เกียรติประวัติและผลงานส่วนตัว
ระดับสโมสร
ปาร์มา : โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (1998-99, 2001-02), ซุปเปอร์โคปา อิตาเลีย 1 สมัย (1999), ยูฟ่า คัพ 1 สมัย (1998-99)
เรอัล มาดริด : ลาลีกา 2 สมัย (2006-07, 2007-08), ซุปเปอร์โคปา เอสปันญา 1 สมัย (2008)
ระดับทีมชาติ
อิตาลี : แชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2 สมัย (1994, 1996), แชมป์โลก 1 สมัย (2006)
รางวัลส่วนตัว
– ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี ของฟีฟ่า 1 สมัย (2006)
– บัลลังดอร์ 1 สมัย (2006)
– ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี ของกัลโชเซเรีย เอ 1 สมัย (2006)
– นักเตะอิตาเลียน ยอดเยี่ยมแห่งปี 1 สมัย (2006)
– กองหลังยอดเยี่ยมแห่งปีของกัลโชฯ 2 สมัย (2005, 2006)
ในโลกของฟุตบอลนั้นไม่มีใครไม่รู้จักเขาอย่างแน่นอน เขาไม่เพียงแค่เป็นตำนานแต่เขาคือหนึ่งในต้นแบบของใครหลายๆคนในยุคนี้เลยก็ว่าได้ แล้วเพื่อนๆล่ะครับมีใครเป็นต้นแบบกันบ้าง หากใครชื่นชอบบทความนี้สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ sport-legend สนับสนุนโดย ufastep