5 ประเด็นลิเวอร์พูล บุกไล่ต้อน ลินคอล์น ซิตี้ 7-2
ลิเวอร์พูล เดินหน้าโชว์ฟอร์มสุดแกร่งในเกมบุกไล่ต้อน ลินคอล์น ซิตี้ 7-2 ในการแข่งขันศึกคาราบาว คัพ รอบ 3 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ส่งให้ทัพ “หงส์แดง” ทะลุเข้าไปดวลกับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ในรอบ 4 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันจัดทัพ “หงส์แดง” แบบดาวรุ่งผสมแข้งสำรอง บุกเยือนถิ่นซินซิล แบงค์ โดยพวกเขายังเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งดาหน้ายิงประตูเจ้าบ้านแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะเก็บชัยชนะไปอย่างไม่ยากเย็นนัก
สำหรับแมตช์นี้นักเตะหลายคนทำผลงานได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะ ทาคุมิ มินามิโนะ กับ เคอร์ติส โจนส์ ที่ช่วยกันยิงคนละสองประตู ขณะที่ มาร์โค กรูยิช และ เซอร์ดาน ชากีรี่ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งอาจทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจเก็บทั้งคู่เอาไว้เพื่อนำไปใช้งานในยามฉุกเฉินก็ได้
1. โจนส์ ยิ่งเล่นยิ่งพัฒนา
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะจับ เคอร์ติส โจนส์ ขึ้นไปเล่นเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ในเกมพรีเมียร์ลีก เพราะผลงานในแมตช์ที่เยือน ลินคอล์น ซิตี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ระดับฝีเท้าของเขาเกินอายุไปเรียบร้อยแล้ว
ดาวเตะวัย 19 ปี เคยสร้างผลงานเลื่องชื่อจากการยิงประตูสุดเหลือเชื่อในเกมเฉือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าของตัวเอง จน คล็อปป์ ต้องจับมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ และทำให้เขาได้รับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก
สำหรับตอนนี้ โจนส์ แสดงทักษะในการเล่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อโดยในเกมกับ ลินคอล์น เขาโชว์ความสุดยอดในการยิงประตูทั้ง 2 ลูก โดยหนึ่งในสองประตูดังกล่าวเป็นการโชว์ลีลาการหมุนตัวก่อนที่จะโยกหลอกกองหลังเจ้าบ้าน และปั้นบอลโค้งเสียบเสาไกลอย่างงดงาม
ยิ่งไปกว่านั้น โจนส์ ยังเปรียบเสมือนหัวใจในแดนกลางสำหรับเกมที่สังเวียนแข้งซินซิล แบงค์ เมื่อเขาเล่นแบบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย คอยพยายามเชื่อมเกมตลอด โดยเขามีสถิติผ่านบอลสำเร็จ 49 จาก 55 ครั้ง และยังเล่นร่วมกับผู้เล่นริมเส้น เพื่อสร้างพื้นที่ในการเข้าทำได้หลายต่อหลายครั้ง
ฉะนั้นการที่เขาได้สวมเสื้อหมายเลข 17 ที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานสโมสรเคยสวมใส่ในช่วงแรกๆ ที่เล่นให้ “เดอะ เร้ดส์” ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมและคู่ควร เพราะนักเตะกำลังเจริญรอยตามฮีโร่ของเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” ในการก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ของทีมในอนาคต

2. มินามิโนะ เริ่มโชว์ความเก่งฉกาจ
ทาคุมิ มินามิโนะ ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องโดยเกมล่าสุดจัดการซัด 2 ประตูพร้อมกับแอสซิสต์ให้กับ ดิว็อค โอริกี้ ยิงปิดท้ายในแมตช์นี้ ฉะนั้นด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทำให้เขามีโอกาสสูงมากๆ ที่จะได้มีส่วนร่วมในการเล่นเกมพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้
สตาร์ลูกหนังชาวญี่ปุ่น โชว์ความมหัศจรรย์ในการจบสกอร์ที่สุดเฉียบคมในจังหวะที่ยิงให้ทีมขึ้นนำ 2-0 ยังไม่หมดแค่นั้น มินามิโนะ ยังได้แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณในการยิงประตูด้วยการวิ่งมาเก็บตกในจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซัดไปติดโกลเจ้าบ้าน ก่อนที่ ดาวเตะเลือดซามูไร จะกระโดดสับขาแปเข้าประตู
ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ มินามิโนะ ยังมีส่วนในการสร้างสรรค์เกมให้กับ “หงส์แดง” และยังขยันวิ่งไล่บอล และทำทางให้เพื่อนตลอด ที่สำคัญเขายังแสดงให้เห็นถึงการมีสายตาที่เฉียบคมด้วยการส่งบอลให้ โอริกี้ ได้ซัดประตูปิดกล่อง ฉะนั้นเกมนี้ถือเป็นฟอร์มที่ครบเครื่องของเจ้าตัวจริงๆ
ตอนนี้ มินามิโนะ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในช่วงปรีซีซั่น และยังยิงประตูในเกมพบ อาร์เซน่อล ศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ (ลิเวอร์พูลแพ้จุดโทษ) ขณะที่ในเกมลีกแม้ว่าเขาจะได้ลงเล่นแค่เกมเดียว แถมใช้เวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้นแมตช์บุกสอย เชลซี 2-0 แต่ผลงานแบบนี้คงทำให้ คล็อปป์ เริ่มมีแผนที่จะใช้งาน มินามิโนะ มากขึ้นแน่นอน
สิ่งเดียวที่อาจทำให้ มินามิโนะ ยังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงในเกมลีกก็คือการที่ ลิเวอร์พูล มีสามประสานจอมโหดได้แก่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ อยู่ในทีม แต่กระนั้นหากผลงานของเจ้าตัวยังดีต่อเนื่อง ไม่แน่ว่า คล็อปป์ อาจจะตัดสินใจลองใช้งานเขาลงตัวจริงก็ได้

3. ลองแข้งใหม่, ให้โอกาสดาวรุ่ง
รีส วิลเลี่ยมส์ ถือว่าเป็นแข้งเซอร์ไพรส์ที่ คล็อปป์ จับลงมาเล่นตัวจริงคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โดยนักเตะทำผลงานได้แข็งแกร่งพอสมควรหากเทียบกับอายุที่ยังอยู่ในวัยกระเตาะเท่านั้น ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า กุนซือชาวเยอรมัน กล้าเสี่ยงกับนักเตะอนาคตไกลรายนี้ ในการทำหน้าที่คุมแนวรับของทีม
ต้องบอกเลยว่านักเตะเล่นดูมีชั้นเชิง เต็มไปด้วยความมั่นใจ ส่วนไฮไลท์เด็ดคงหนีไม่พ้นจังหวะเปิดบอลยาวสุดแม่นให้ โอริกี้ โหม่งชงให้ โจนส์ จบสกอร์ ขณะที่ในครึ่งหลัง วิลเลี่ยมส์ มีจังหวะการเล่นที่จำเป็นต้องเรียนรู้โดยเฉพาะการเล่นพลาดจนเป็นเหตุให้ ลินคอล์น ยิงประตูได้

ส่วน คอสตาส ซิมิคาส มีโอกาสได้ลงเล่นตัวจริงในสีเสื้อ “หงส์แดง” ครั้งแรก และโชว์ให้เห็นถึงฟอร์มที่ไว้วางใจได้ และแข็งแกร่ง แม้ว่าผลงานอาจจะไม่ได้โดดเด่นหวือหวามากนัก แต่สาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะได้เห็นอะไรเด็ดๆ ออกมาจากดาวเตะชาวกรีกมากกว่านี้
ซิมิคาส แสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมรุกที่รวดเร็ว, มีไหวพริบเฉียบคม และการเปิดบอลจากริมเน้นที่โดดเด่น ในขณะการเล่นเกมรับก็ถือว่าดุดัน และมีความขยันในการวิ่งไล่บี้คู่แข่งเพื่อที่จะแย่งบอลกลับคืนมาให้เร็วที่สุด ซึ่งนี่คือคุณสมบัติที่ คล็อปป์ ชื่นชอบ
ส่วน ดีโอโก้ โชต้า ลงเล่นเปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย แม้ว่านักเตะอาจจะมีเวลาโชว์ฟอร์มได้ไม่มากนัก แต่เขาก็แสดงให้เห็นทักษะที่โดดเด่นทั้งการสัมผัสบอลที่ยอดเยี่ยม และความพยายามในการยิงประตู
4. ชากีรี่ พิสูจน์แล้วว่ายังมีทีเด็ด
สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่าไม่ค่อยได้เห็นผลงานสุดน่าประทับใจจาก เซอร์ดาน ชากีรี่ มานานนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 แต่เกมที่เยือน ลินคอล์น ซิตี้ เจ้าตัวได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังมีทีเด็ด และพร้อมสอดแทรกตัวจริงของทีมเช่นเดียวกัน
กองกลางร่างตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ อาจจะเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยๆ ช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้นักเตะกลับมาแข็งแกร่งเต็มที่แล้ว โดยเขาได้แสดงให้เห็นถึงพลังในการเล่น รวมไปถึงการโชว์ยิงฟรีคิกที่สุดฉมังในเกมนี้

ประตูขึ้นนำของทีมตั้งแต่ต้นเกมของ ชากีรี่ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นได้ง่ายยิงขึ้น และทำให้พวกเขาสามารถคุมเกมได้หมดจนกระทั่งไล่ยิงประตูเจ้าบ้านแบบไม่เกรงใจก่อนจะคว้าตั๋วเข้ารอบ 4 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปพบ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล
นอกจากนี้การยิงฟรีคิกที่สวยงดงามแล้ว ชากีรี่ ยังเล่นได้อย่างน่าประทับใจทั้งการวางบอลจากแดนกลาง และการเป็นตัวขับเคลื่อนเกม รวมไปถึงการโยนบอลข้ามฟากที่แสนแม่นยำ ทำให้คู่แข่งต้องเจอปัญหาหนักในการเปิดตำรารับมือ
แม้ว่า ชากีรี่ จะมีข่าวว่าเตรียมย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ หลังจากที่สโมสรซื้อตัว โชต้า มาร่วมทีมเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คุณภาพของเขาที่แสดงให้เห็นในเกมนี้ อาจจะโน้มน้าวใจให้ คล็อปป์ ต้องเก็บตัวเอาไว้เพื่อเป็นยางอะไหล่ในการลุ้นความสำเร็จสำหรับฤดูกาลนี้
5. อย่าเพิ่งลืมชายชื่อกรูยิช
สาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะลืมชื่อของ มาร์โค กรูยิช กันไปแล้ว เพราะนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปี 2016 ชีวิตส่วนใหญ่ก็คือการถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวทั้งกับ เรด สตาร์ เบลเกรด, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน จนทำให้หลายคนคิดว่านักเตะหมดอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์ไปแล้ว
ต้องยอมรับว่าการมาของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางเชิงสูงทีมชาติสเปน ทำให้ กรูยิช แทบจะไม่มีที่ยืนเพราะในแผงมิดฟิลด์ของ “เดอะ เร้ดส์” ในเวลานี้อัดแน่นไปด้วยผู้เล่นคุณภาพคับแก้ว นั่นทำให้เขาเป็นตัวเลือกท้ายๆ ที่ คล็อปป์ จะจับลงสนามเกมลีก
อย่างไรก็ตามในเกมนี้ กรูยิช ได้รับโอกาสได้โชว์ศักยภาพของตัวเอง และเขาก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป เมื่อ ทำผลงานได้ดีพอสมควรโดยเฉพาะกับการรับบทบาทในตำแหน่งโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ซึ่งก็คุมเกมได้ดี แถมยังตะบันประตูเป็นครั้งแรกให้กับต้นสังกัดซะด้วย
ฉะนั้นฟอร์มการเล่นของ กองกลางดีกรีทีมชาติเซอร์เบีย ในเกมไล่ถลุง ลินคอล์น ซิตี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาซึ่งก็เหมือนกับ ชากรี่ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในแมตช์นี้ อาจจะทำให้ คล็อปป์ มองเห็นทางสว่างที่จะใช้งานนักเตะในฤดูกาล 2020/2021
4 สูตรเด็ด โดนัทแสนอร่อย! ขนมถือเป็นอาหารที่คนไทยขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน เราเชื่อว่าอย่างน้อย ๆ แต่ละคนต้องทานขนมสักชิ้นระหว่างวันแน่นอน ยิ่งในมื้อเช้าสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ การเลือกขนมอร่อย ๆ สักชิ้น มาเป็นตัวเสริมความกลมกล่อมให้กับกาแฟ คงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : เเชมป์มวยโลกคนเเรกของไทย